4.เมื่อลูกผมเรียน giftedโรงเรียนดังแห่งหนึ่ง

ตอน4 เมฆหมอกชีวิตมา เพื่อเราฟันฝ่าไป..

มันเหมือน มีอะไรมาจุกที่คอ…

“ผมลืมส่งงานครับ.. ผมทำงานไม่ครบครับ ..เพื่อนๆไม่ให้อยู่กลุ่มครับ…”

ก่อนหน้าคะแนนออก เรารู้สึกถึงความไม่ปกติได้บ้าง ว่า ไมล์ ไม่ได้ส่งหลายงาน …

ครูประจำชั้น บอกว่า ไมล์มีปัญหาในการส่งงาน งานไม่ครบ ไม่เรียบร้อย และที่ถามหลายๆครู บอกว่า ไมล์มักบอกว่า ทำแล้วแต่ลืมเอามา และวันถัดมาก็ไม่ส่ง ทำให้หลายๆงานได้ 0 และคะแนนงานเก็บคือ 60% ของโรงเรียนแห่งนี้… บางทีในการเรียน ก็ดูเหมือนเหม่อ  ไม่ค่อยทำตามสั่งเหมือนเข้าหูซ้ายทะลุหูขวา .. บางทีคุย และโพล่งออกมา  ไม่จดการบ้าน… นั่นช่างเหมือนอาการโรคสมาธิสั้น … หรือมันกำเริบขึ้นมาอีก..ฉันคิด

คะแนนกลุ่มก็เช่นกัน ลูกบอกว่าเพื่อนไม่ค่อยให้อยู่ในกลุ่ม ถามเพื่อนที่พอถามได้ ในกลุ่มเด็กชายที่ไมล์พออยู่ได้ ก็จะได้รับคำตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า บางทีไมล์ชอบโวยวาย บางทีเอาความคิดตัวเองเป็นใหญ่ บางทีทำอะไรช้า …ส่วนเพื่อผู้หญิงน่ะหรือ ไม่ยอมให้เข้ากลุ่มเลย เมื่อถามก็บอกว่า ไมล์ชอบโกหก ชอบแถ…ฉันถามลูกว่า ทำไมเพื่อนไม่ให้เข้ากลุ่ม ไมล์บอกว่า อาจเพราะผมตัวใหญ่ ดำ สิวเยอะ เสียงดัง บางทีเพื่อนชอบแกล้ง และหัวเราะเวลาไมล์มีท่าทีเหมือนโมโห เป็นตัวตลก…

เพื่อนผู้หญิงนั้น ไมล์บอกว่า ไม่ยอมคุยด้วย จะเดินหนีไปเลย ถามไม่ตอบ.. จนช่วงหลังๆ ไมล์ก็ไปคบเพื่อนห้องอื่น

ลูกบอกเล่นๆว่า มีเพื่อนทั้งโรงเรียน ยกเว้นเพื่อนห้องเดียวกันแทบไม่มี… แทบไม่น่าเชื่อ

ถ้าเป็นพ่อแม่คนอื่น จะเชื่อลูก แต่…ฉันเชื่อเพื่อนลูก ….เนื่องจากคนอื่น จะเป็นคนสะท้อนตัวตนของเราที่ดี ฉันถูกสอนมาอย่างนั้น … แต่ฉันมารู้ทีหลังว่า เป็นการคิดที่ผิดเหมือน ที่มาเชื่อ คนที่ถูกฝึกมาไม่เหมือนคนบ้านนอกอย่างฉัน ว่าให้สะท้อนความซื่อสัตย์ออกมา

..ใช่ เด็กๆเหล่านั้นหลายๆคน รวมทั้งเพื่อนลูก …สะท้อนสิ่งผิดออกมาจากในกระจก.. และทำให้ฉันต้องมองอีกครั้งว่า สังคมที่ลูกเรา และเรามองว่า ดีนั้น ในเนื้อแท้ มันช่างแฝงด้วยความโหดร้ายมากๆ

แทบไม่น่าเชื่อว่า ณ.สังคมแห่ง gifted สถาบันแห่งนี้ ถ้าไม่ได้เจอด้วยตนเอง ก็คงจะมองด้วยความชื่นชม…

เบ้าหลอมความดี กับเบ้าหลอมความเก่ง มันกลายเป็นสองอันที่เดินขนานกัน…

เรายังไม่ได้ฉุกใจคิดว่า ว่าโรคแอสเปอร์เกอร์ ที่ซ่อนอยู่ในตัว ได้ ปะทุขึ้นมา…

ตอนต่อ 4


Posted

in

by

Tags:

Comments

Leave a Reply