3เมื่อลูกผมเรียน giftedโรงเรียนดังแห่งหนึ่ง

ตอน3 สอบติด

สาธิตประสานมิตร ฟาวล์ไปแล้ว ทั้งที่ไมล์บอกว่า ข้อสอบหมูมาก (เรื่องข้อสอบหมู พ่อไม่ค่อยเชื่อเพราะไมล์ค่อนข้างสะเพร่า) เลยไม่ติด ส่วนสาธิต ปทุมวัน ก็ไม่ติดอีก …

ความหวังสุดท้ายก็มาถึง ฉันพริ๊นท์ใบสมัคร ทั้งของสวนกุหลาบ gate dprogram และ โรงเรียนชื่อดังแห่งนี้ เพราะสมัครพร้อมกันทั้งคู่ โดยตั้งเป้าว่าถ้าติดสาธิตใดสาธิตหนึ่ง จะสอบสวนฯ แต่ถ้าไม่ติดจะสอบโรงเรียนดังแห่งนี้ เพื่ออย่างน้อยจะไม่ยากเกินไป ตามระดับคะแนนที่เราแพลน ไมล์น่าจะติด

แล้วไมล์ก็สอบติดจริงๆ … พวกเราฉลองกันใหญ่

แม่ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ส่วนฉันก็ดีใจ หายเหนื่อย ที่ได้ลูกอยู่ในโรงเรียน1ในระดับtop10 ของประเทศไทย … ส่วนเจ้าตัวไม่ต้องพูดถึง ดีใจมาก และได้รู้ว่าเพื่อนๆที่เรียนอยู่ด้วยกันในสถาบันกวดวิชา ติดโรงเรียนแห่งนี้หลายคน … ไมล์บอกว่า เขาชอบเพื่อนที่เรียนพิเศษที่นี่มาก …

เราห้าคนพ่อแม่ลูก พาไมล์มาส่งในวันมอบตัว… พร้อมกำชับกับย่า ว่าฝากหลานไว้ด้วย .. ไมล์ น่าจะรับผิดชอบตัวเองได้ และยังมีพี่สาวคนโตคอยคุมด้วย น่าจะพอไปเองมาเองได้ …

วันที่ลูกมาอยู่ ฉันสอนลูกในห้าข้อ ของความไม่ดีในตัว กำชับเสมอ … แต่ตอนนั้น เราลืม … ลืมไปสนิทว่า เขายังมีโรคประจำตัวคือ สมาธิสั้น และ แอสเปอร์เกอร์ … ที่ยังไม่ได้รับการรักษา…

เทอมแรกของการเรียนที่โรงเรียนดังระดับtop10แห่งนี้ เราไม่ค่อยได้ไปยุ่งกับการเรียนมาก เนื่องจากฉันและภรรยา ก็ดูแลงานที่บ้านนอกหนักมาก เราแทบไม่ได้เจอกัน เพียงแต่โทรศัพท์ และเจอกันทุกเสาร์ หลังจากเลิกเรียน เพื่อพาลูกมาเรียนพิเศษ .. ทุกครั้งลูกก็จะพูดว่า โอเค ใช้ได้ … เขายังร่าเริง และพร้อมจะเล่นเกมส์เสมอเวลากลับมาบ้านย่า ต้องมีคนคอยคุม งานการบ้านไม่ค่อยเรียบร้อย … ตอนแรก ก็คิดว่า เด็กผู้ชาย ไม่ค่อยเรียบร้อย…

ผลสอบกลางภาค ออกมา ครูเรียกพบเพราะคะแนนเก็บรายงาน ไม่ส่งเยอะมาก ….. เกือบตกทุกวิชา !!!!!


Posted

in

by

Tags:

Comments

One response to “3เมื่อลูกผมเรียน giftedโรงเรียนดังแห่งหนึ่ง”

  1. บุษบา Avatar
    บุษบา

    เหมือนลูกชายดิฉันทุกเรื่องเลยค่ะ ตอนนี้เรียนอยู่ชั้น ม.2 (อายุ 13 ปี) ทั้งเรื่องการเรียนในห้อง Gifted อุปนิสัย โรคประจำตัว เพื่อน ดิฉันอ่านจนครบ 12 ตอน รู้สึกเสียใจในสิ่งที่ผ่านมาเรื่องลูก เรื่องราวที่คุณหมอกิจการ จันทรดา เล่ามาเป็นกระจกส่องให้ดิฉันทราบความจริงเกี่ยวกับตัวลูกชาย ซึ่งดิฉันคิดผิดจริง ๆ ตอนนี้ดิฉันพิมพ์เรื่องเล่าทั้งหมดออกมา เพื่ออ่านซ้ำหลาย ๆ ครั้ง ยิ่งทำให้รู้สึกเสียใจ ที่ผ่านมาไม่เข้าใจลูกตัวเอง จะต่อว่าแรง ๆ ก็บ่อย ๆ จริงๆ ลูกต้องการเพื่อน ที่เข้าใจเขา ให้โอกาสเขาบ้าง ช่วงเหลือเวลาไม่สบาย ขนาดเป็นลมหมดแรงนอนกองอยู่กับพื้น เพื่อนยังเดินผ่านไปมาหรือคิดอีกทีเป็นเพราะลูกดิฉันพุดจาแรง ๆ เพื่อน ๆ ไม่ชอบ เขาก็เลยไม่อยากอยู่ใกล้ ขอบพระคุณมากค่ะที่แบ่งปันประสบการณ์ มีค่ามหาศาลค่ะ

Leave a Reply